“ศาลจังหวัดนครปฐมสืบพยานครั้งสุดท้าย คดีบริษัทเหมืองไทยในพม่าฟ้อง อดีต บก. สำนักสิ่งแวดล้อม GreenNews เสร็จสิ้น – นัดฟังคำพิพากษา 12 ก.ค. นี้ ”
เมื่อวันที่ 10-11 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายปรัชญ์ รุจิวนารมย์ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดนครปฐม ในเวลา 9.00 น. เพื่อให้คำเบิกความในขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายจำเลย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการสืบพยานฝ่ายโจทก์คืออัยการจังหวัดนครปฐม และโจทก์ร่วมคือตัวแทนบริษัทเมียนมา พงษ์พิพัทธ์ จำกัด
โดยคดีนี้มีที่มาจากการที่“บริษัท เมียนมาร์ พงษ์พิพัทธ์ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่ไทยในเมียนมาได้แจ้งความต่อ “นายปรัชญ์ รุจิวนารมย์” บรรณาธิการสำนักข่าวสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น ในข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา อันเกี่ยวข้องกับการรายงานข่าวเรื่อง ‘ศาลพม่าสั่งบริษัทเหมืองแร่ไทยชดใช้ชาวบ้านทวาย 2.4 ล้านบาท เหตุเหมืองดีบุกทำสิ่งแวดล้อมพัง’ เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ซึ่งเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ของทางสำนักข่าว โดยมีอัยการจังหวัดนครปฐมเป็นโจทก์ และทางบริษัทเป็นโจทก์ร่วม
ในการสืบพยานครั้งนี้ ศาลจังหวัดนครปฐมได้สืบพยานฝ่ายจำเลยทั้งสิ้น 4 ราย ได้แก่
1) นายปรัชญ์ รุจิวนารมย์ อดีตบรรณาธิการสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นจำเลยในคดี
2) ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ
3) ซอ ดา เชว ชาวบ้านผู้ฟ้องคดีต่อบริษัท เมียนมา พงษ์พิพัทธ์ จำกัด
4) อู ขิ่น หม่อง เอ ซึ่งเป็นทนายของนายซอ ดา เชว โดยการสืบพยานในส่วนของซอ ดา เชว และอู ขิ่น หม่อง เอ นั้นเป็นการสืบพยานทางไกลผ่านระบบวีดิโอ conference จากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมาหลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาให้คำเบิกความที่ศาลจังหวัดนครปฐมได้
หลังจากสิ้นสุดการสืบพยานเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 พ.ค. ศาลได้อ่านสรุปการสืบพยาน หลังจากนั้นศาลอนุญาตให้ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีภายใน 30 วัน โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 แต่เนื่องด้วยตรงกับวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ทั้งสองฝ่ายจึงต้องยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีภายในวันศุกร์ที่ 9 มิ.ย. นอกจากนั้นแล้วศาลจังหวัดนครปฐมได้นัดรับฟังคำพิพากษาในวันที่ 12 ก.ค. 2566 เวลา 9.00 น.